ปัญหากวนใจผู้หญิงอย่างเราในทุกเดือนคงไม่พ้นการเป็นสิว เพราะนอกจากการมีประจำเดือนแล้ว ยังมีอาการปวดท้อง ปวดเมื่อยตามลำตัว อ่อนเพลีย อารมณ์ขึ้น ๆ ลง ๆ แปรปรวนตามฮอร์โมนตลอดเวลา แล้วยังต้องเจอกับเจ้าสิวบุกหน้าหนักกว่าช่วงอื่นอีก ทำให้เซ็งและหงุดหงิดจนอยากกรี๊ดกันเลยทีเดียว วันนี้พาขวัญคลินิกจะพามาทำความรู้จักเจ้าสิวฮอร์โมนหรือสิวประจำเดือนให้เข้าใจมากขึ้นและยังนำทริคการดูแลผิวหน้าในช่วงมีประจำเดือน อีกด้วย
สิวประจำเดือนเป็นหนึ่งในประเภทของสิวฮอร์โมน เพราะช่วงมีประจำเดือนร่างกายจะมีความไม่สมดุล มีการแปรปรวนของฮอร์โมน จากการที่ฮอร์โมนเพศชายยังคงอยู่ในระดับคงที่ตลอดต่อให้เราจะอยู่ในช่วงที่มีรอบเดือน ในขณะที่ฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรน (ฮอร์โมนเพศหญิง) ลดลงเมื่อใกล้ถึงช่วงมีประจำเดือน จึงทำให้ก่อนและระหว่างมีประจำเดือน ตัวระดับฮอร์โมนเพศชาย อาจสูงกว่าเอสโตรเจนหรือโปรเจสเตอโรน (ฮอร์โมนเพศหญิง)
ซึ่งสิวประจำเดือนมีความแตกต่างจากสิวทั่วไปที่เกิดขึ้นในช่วงสัปดาห์อื่น ๆ สิวที่เกิดจากสิวประจำเดือนส่วนใหญ่จะเกิดแถวช่วงครึ่งล่างของใบหน้าบริเวณ คาง แก้ม กรามและคอ หรือช่วง T-zone ส่วนใหญ่เป็นตุ่มสิวที่อักเสบมีสีแดงมากกว่าสิวที่เป็นหนอง พยายามอย่าบีบสิวหรือจับเล่นเด็ดขาด เพราะอาจทำให้เกิดการอักเสบที่รุนแรงได้และทำให้สิวหายช้ากว่าเดิม ถึงจะรู้สึกว่าอยากบีบแค่ไหนก็ตาม
สิวฮอร์โมนนั้นเป็นสิวที่เกิดจากการแปรปรวนของฮอร์โมนภายในร่างกาย อาจจะเกิดจากหลายปัจจัยมาเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดสิวขึ้นมาได้
- ฮอร์โมนในช่วงวัยรุ่นไม่สมดุลทำให้เกิดความเครียด
- พักผ่อนไม่เพียงพอ
- ระหว่างที่รับประทานยาคุมกำเนิด ก็ทำให้ฮอร์โมนในร่างกายไม่คงที่
อย่างที่ทราบกันดีช่วงที่มีประจำเดือนทำให้ฮอร์โมนไม่สมดุล และยังมีผิวที่ค่อนข้างอ่อนแอ แพ้ง่าย รวมถึงปัจจัยแวดล้อมกระตุ้นให้สิวเกิดง่ายขึ้น
- พักผ่อนอย่างเพียงพออย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง ช่วยให้ร่างกายฟื้นฟูขณะนอนหลับ ร่างกายไม่สร้างฮอร์โมนความเครียด ลดการกระตุ้นให้เกิดสิว และสร้างสมดุลฮอร์โมน
- ดื่มน้ำเปล่าอย่างน้อย 2.7 ลิตร/วัน ช่วยเสริมสร้างให้ร่างกายรักษาสมดุล ขับเหงื่อหรือสิ่งสกปรกออกจากรูขุมขนได้ดี ช่วยในเรื่องการขับถ่าย ขจัดสารพิษ ลดการสะสมของเชื้อแบคทีเรียที่ตกค้างในลำไส้ ที่เป็นตัวการของสิวและยังช่วยบรรเทาอาการปวดท้องประจำเดือน
- หลีกเลี่ยงการรับประทานน้ำตาล แป้ง โปรตีน ไขมัน เพราะจะกระตุ้นให้ร่างกายเกิดอนุมูลอิสระ เร่งการเกิดสิวต่อผิวมากขึ้น และทำให้ร่างกายอักเสบ
- ให้ร่างกายเพิ่มการหลั่งของฮอร์โมนแห่งความสุข คลายความเครียด โดยการออกกำลังกายเบา ๆ เช่น คาร์ดิโอ โยคะ จ๊อกกิ้ง เดินเร็ว อย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน
- ช่วงประจำเดือนจะมีรูขุมขนที่เปิดกว้าง จึงควรหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีความเข้มข้น เหนียวเหนอะหนะในช่วงที่เป็นประจำเดือน เพราะจะทำให้เกิดการอุดตันในรูขุมขน
ตามหลักความเป็นจริงแล้ว สิวฮอร์โมนไม่สามารถป้องกัน 100% แต่ยังวิธีการเลี่ยงหรือลดการเกิดได้
หลาย ๆ คน อ่านถึงตรงนี้ก็ไม่ต้องกังวลใจไป เพราะสิวฮอร์โมนเป็นเรื่องธรรมชาติมาก ๆ สำหรับผู้หญิงเป็นสิ่งที่ผู้หญิงทุกคนแทบจะต้องเผชิญ เพียงแค่พยายามดูแลป้องกัน ลดการเกิดให้มากที่สุดก็เพียงพอแล้ว และนี่ก็เป็นทริคในการป้องกันการเกิดสิวฮอร์โมนที่พาขวัญคลินิกนำมาฝาก ในครั้งถัดไป ทางพาขวัญคลินิกจะนำเคล็ดลับการดูแลตัวเองในด้านใด สามารถติดตามในบทความของเราได้ ให้เราเป็นเพื่อนที่คอยแชร์และให้คำแนะนำนะคะ
“ เพราะเราเชื่อว่าทุกคนมีความสวยในแบบของตัวเอง
และเราอยากให้คุณมั่นใจในการออกไปใช้ชีวิต “
พาขวัญคลินิกหาดใหญ่ -