คุณเป็น 80% ของสาวๆ ที่เข้าใจผิดเรื่องความงามเหล่านี้รึเปล่า

ความมั่นใจในด้านความงานต้องการความเสียสละและการทุ่มเท เพื่อที่จะคงความงามแบบที่เรามั่นใจเอาไว้ แต่บางครั้งสิ่งที่ท่านทำจนติดเป็นนิสัย รวมถึงความเข้าใจเกี่ยวกับความรู้ด้านความงามที่ยังไม่ถูกต้องนักอาจทำให้เกิดปัญหาผิวหน้าที่ไม่พึงประสงค์ขึ้นได้ ซึ่งทางพาขวัญคลินิกหาดใหญ่อยากมาแนะนำเพิ่มเติมเพื่อให้คุณเข้าใจมากขึ้นในบทความนี้

14 ความเข้าใจผิดด้านความงาม

ความเข้าใจผิดที่ 1: การแต่งหน้าทุกวันไม่ดีต่อผิว

ในความเป็นจริงแล้ว การแต่งหน้าไม่ได้ทำร้ายผิว แต่เป็นเพราะเราละเลยที่จะลบเครื่องสำอางค์ออกให้หมดจดก่อนเข้านอน ผิวควรมีโอกาสได้เติมออกซิเจน และเครื่องสำอางสมัยใหม่ก็ประกอบด้วยสารกรองรังสียูวี สารให้ความชุ่มชื้นและมีคุณสมบัติในการป้องกันที่เป็นประโยชน์ต่อผิวอย่างมาก เพราะสามารถปกป้องผิวจากผลกระทบที่รุนแรงจากมลภาวะได้

ความเข้าใจผิดที่ 2 “ไฮโปอัลเลอร์เจนิก (hypoallergenic)” แปลว่าผลิตภัณฑ์นั้นเหมาะกับทุกสภาพผิว

เครื่องสำอางแบบ “ไฮโปอัลเลอร์เจนิก” ไม่มีส่วนผสมภูมิแพ้ที่คนทั่วไปแพ้ นั่นคือ “แอลกอฮอล์” เพียงเท่านั้น แต่ส่วนผสมชนิดเดียวที่ไม่มีฎิกิริยาต่อผิวหนังใด ๆ คือ “น้ำกลั่น” เท่านั้น จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ต้องนึกอยู่เสมอว่า เราควรเรียนรู้เนื้อหาของผลิตภัณฑ์อย่างรอบคอบก่อนซื้อ เพราะเครื่องสำอางที่ใช้ส่วนผสมของธรรมชาติไม่ได้เหมาะกับสภาพผิวของทุกคน

ความเข้าใจผิดที่ 3 ครีมที่ให้ความชุ่มชื้นไม่ป้องกันริ้วรอย

ในความเป็นจริงแล้วครีมที่ให้ความชุ่มชื้นจำนวนมากต่อสู้กับริ้วรอย ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่ต้องนึกอยู่เสมอว่าควรมีสารกรองยูวี และวิตามินที่มีสารต้านอนุมูลอิสระเป็นส่วนประกอบในครีมที่ใช้

ความเข้าใจผิดที่ 4 ผิวหน้าปรับเข้ากับครีมแล้ว ทำให้ครีมสูญเสียประสิทธิภาพ ควรต้องเปลี่ยนครีม

เป็นความเข้าใจผิดที่พบบ่อย เพราะในความจริงแล้วการเปลี่ยนไปใช้ครีมตัวใหม่อาจสร้างความตึงให้กับผิวได้ อย่างไรก็ตามควรนึกอยู่เสมอว่าว่ากฎในการดูแลผิวจะแตกต่างกันไปในแต่ละฤดูกาล ดังนั้นหากครีมรักษาระดับค่า pH ที่เหมาะสมไว้เพียงพอสำหรับหน้าร้อนแล้ว ครีมที่เลือกใช้ในหน้าหนาวก็ควรปกป้องผิวจากแสงแดด ลม ฝุ่น และควรมีคุณสมบัติที่บำรุงผิวให้ชุ่มชื้นด้วย

ความเข้าใจผิดที่ 5: ทาครีมวนจากล่างขึ้นบน

อันที่จริงแล้วการทาครีมวนจากล่างขึ้นบนไม่ได้ทำให้ประสิทธิภาพของครีมดีขึ้น แต่อย่างไรแล้วการทาครีมบนหน้าก็มีกฎเกณฑ์อยู่เช่นกัน ซึ่งสามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่บทความ “6 วิธีทาครีมให้ผิวหน้าสุขภาพดีกว่าที่เคย” ของทางพาขวัญคลินิกหาดใหญ่ค่ะ

ความเข้าใจผิดที่ 6: ควรดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อป้องกันริ้วรอย

เป็นความเชื่อที่คนเข้าใจผิดกันเป็นอย่างมากว่าการจะทำให้การบวณการแก่ตัวของผิวช้าลง แต่ตามหลักการแล้วเซลล์ชั้นนอกของผิวหนังได้ตายไปแล้ว ทำให้ผิวไม่สามารถดูดซับความชุ่มชื้นจากภายในได้

ความเข้าใจผิดที่ 7: หากบริหารใบหน้าเป็นประจำจะกำจัดริ้วรอยได้

ใบหน้าเป็นผิวหนังเพียงส่วนเดียวของร่างกายที่กล้ามเนื้ออยู่ติดกับผิวหนังโดยตรง ดังนั้นการยืดและบริหารใบหน้าอย่างต่อเนื่องไม่สามารถช่วยให้ริ้วรอยที่มีอยู่เรียบเนียน หรือตื้นขึ้นได้

ความเข้าใจผิดที่ 8: การตากสิวกลางแดดทำให้สิวแห้ง

แดดทำให้ผิวแห้งก็จริง แต่ผิวก็จะตอบสนองด้วยการหลั่งน้ำมันมาอุดตันรูขุมขนมากขึ้น นอกจากนี้การอยู่กลางแดดเป็นเวลานานโดยที่ไม่ได้ป้องกันอาจทำให้เกิดอาการแพ้แสงแดดได้ ซึ่งทำให้เกิดฝ้าที่เป็นปัญหาผิวระยะยาว

ความเข้าใจผิดที่ 9: ผิวแทนสม่ำเสมอเป็นผิวที่สุขภาพดี

การเกิดผิวแทนเป็นปฎิกิริยาที่ผิวผลิตเซลล์เม็ดสีออกมาเพื่อป้องกันแสงแดด ดังนั้นผิวสีแทนที่ดูสม่ำเสมอบ่งบอกว่าผิวได้กำลังพยายามปกป้องตัวเองเพียงเท่านั้น

ความเข้าใจผิดที่ 10: การกำจัดไฝเป็นอันตรายต่อสุขภาพ

เพราะไฝเป็นการสร้างเม็ดสีบนผิวหนังและจะมีรูปร่างต่างกันไป โดยส่วนใหญ่ไฝไม่ก่อให้เกิดอันตราย แต่ก็มีไฝบางส่วนที่สามารถเปลี่ยนเป็นมะเร็งผิวหนังได้ ดังนั้นเราจึงควรกำจัดไฝที่ไร้พิษภัยบนผิวหนังออกทั้งหมด ซึ่งขั้นตอนทางการแพทย์ในการกำจัดไฝมีความปลอดภัย ไม่เป็นอันตรายแต่อย่างใด

ความเข้าใจผิดที่ 11: การเช็ดหน้าด้วยน้ำแข็งมีประโยชน์

วิธีนี้ไม่ได้เหมาะสมสำหรับทุกสภาพผิว เพราะเมื่อผิวสัมผัสกับอุณหภูมิที่ต่ำอาจเป็นอันตรายต่อผิวหนังได้ โดยจะส่งผลให้การไหลเวียนของเลือดหยุดชะงัก อีกทั้งอาจเกิดอาการบวมและเส้นเลือดขอด 

การทำงานของต่อมไขมันลดลง ทำให้สูญเสียความยืดหยุ่น ดังนั้นผู้ที่ผิวแห้งไม่ควรใช้วิธีนี้เป็นอย่างยิ่ง และสำหรับสภาพผิวอื่น พาขวัญคลินิกหาดใหญ่แนะนำว่ามีผลิตภัณฑ์บำรุงผิวอีกมากมายที่ให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าการใช้น้ำแข็งค่ะ

ความเข้าใจผิดที่ 12: หากตัดผมบ่อย ผมจะยาวเร็วขึ้น

ในความเป็นจริงแล้วผมจะยาวขึ้นด้วยความเร็วโดยเฉลี่ยคือประมาน 0.4 นิ้วต่อเดือน ไม่ว่าจะตัดผมบ่อยหรือไม่ตัดเลยก็ตาม

ความเข้าใจผิดที่ 13: ต้องแปรงฟันหลังอาหารทุกมื้อ

การแปรงฟันหลังอาหารทันทีไม่เพียงแต่ไม่ส่งผลให้ฟันสะอาดขึ้น แต่ยังเป็นอันตรายอีกด้วย เพราะกรดที่เข้าช่องปากพร้อมผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดฟันจะกัดเซาะชั้นเคลือบฟัน ซึ่งทำให้ฟันเกิดการสึกกร่อน และผุเร็วมากขึ้น

ความเข้าใจผิดที่ 14: ยาทาเล็บทำให้ผิวไม่ได้หายใจ

เล็บเป็นเซลล์ที่ตายแล้ว ดังนั้นเล็บไม่ต้องการออกซิเจนเพื่อใช้หายใจ แต่การพักเล็บหลังจากการทำเล็บมานานก็เป็นเรื่องจำเป็น 

พาขวัญคลินิกหาดใหญ่หวังว่าบทความนี้จะช่วยเพิ่มความเข้าใจให้กับท่าน และให้ท่านได้เลือกวิธีการดูแลตัวเองเพื่อใช้ชีวิตอย่างมั่นใจมากยิ่งขึ้นค่ะ

 “เพราะเราเชื่อว่าทุกคนมีความสวยในแบบของตัวเอง

 และเราอยากให้คุณมั่นใจในการออกไปใช้ชีวิต”

- พาขวัญคลินิกเสริมความงามหาดใหญ่ -