เนื่องจากปัจจุบันมีเทคโนโลยีในการทำหัตถกรรมความงามเกิดขึ้นมากมาย หนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยมสำหรับผู้ที่ต้องการยกกระชับใบหน้าในรูปแบบใหม่โดยที่ไม่ต้องผ่าตัด พักฟื้นนาน นั้นก็คือ Ulthera และ Hifu ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่กำลังได้รับความสนใจและถูกตั้งข้อสงสัยบ่อยๆ ว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร มีข้อดีและข้อเสียต่างกันอย่างไรบ้าง เพราะเทคโนโลยีทั้งสองตัวมีคุณสมบัติคล้ายกันมาก ในบทความนี้ทางพาขวัญคลินิกจะพาไปทำความรู้จัก ทั้งUlthera และ Hifu ให้มากขึ้น เพื่อให้เพื่อนๆได้มีข้อมูลประกอบการตัดสินใจ
เทคโนโลยียกกระชับแบบ Original มีหลักการทำงานโดยใช้คลื่นเสียงความถี่สูง และมีความเฉพาะเจาะจงยิงลงไปใต้ชั้นผิวเพื่อให้ผิวเกิดการยกกระชับขึ้น ในการทำงานของเครื่อง Ulthera แพทย์จะยิงคลื่นเสียงจากตัวเครื่องส่งไปยังใต้ผิว โดยใช้ความร้อนประมาณ 65 องศา ที่สามารถลงลึกถึงใต้ผิวหนัง ด้วยจุดพลังงานขนาด 1 mm. ลักษณะเป็นจุดไข่ปลาเล็ก ๆ เรียงกันเป็นเส้นตรงใต้ผิว จึงช่วยแก้ไขปัญหาผิวหน้าที่หย่อนคล้อย มีริ้วรอย ผิวยกกระชับขึ้นได้โดยไม่ต้องผ่าตัด
HIFU หรือ High Intensity Focus Ultrasound หัตถการยกกระชับผิว ใช้เครื่องเฉพาะเพื่อยกกระชับผิวและสัดส่วน ป็นเทคโนโลยีที่มีต้นแบบจาก Ultherapy สามารถทำ ได้ทั้งบริเวณใบหน้า แก้ม เหนียง คอ รวมถึงต้นแขน ต้นขา และส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และอีลาสตินใต้ชั้นผิว ทำให้ผิวบริเวณที่ทำ HIFU ยืดหยุ่นมากขึ้น กระชับรูขุมขน ลดริ้วรอย
การทำงานของ Ulthera และ Hifu ค่อนข้างคล้ายกัน เนื่องจากใช้พลังงานคลื่นเสียง (Ultrasound) ในการยกกระชับผิวแก้ไขปัญหาผิวหย่อนคล้อยเหมือนกัน โดยพลังงานคลื่นเสียงจะเปลี่ยนเป็นความร้อนลงลึกได้ถึงชั้นผิว SMAS ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับการผ่าตัดดึงหน้า ทำให้ผิวที่หย่อนคล้อยกระชับขึ้นได้ รวมถึงริ้วรอยร่องลึก รอยพับต่างๆ ที่ทำให้หน้าดูมีอายุลดลง และยังช่วยลดไขมันบริเวณที่ทำ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวทำให้ผิวกลับมาแข็งแรง อย่างไรก็ตามยังมีจุดที่แตกต่างกัน นั้นก็คือการส่งคลื่นพลังงานลงไปยังชั้นผิวโดย Ulthera จะส่งคลื่นพลังงานลงไปที่ชั้นผิวเป็นจุดขนาดประมาณ 1 มิลลิเมตร เรียงกันหลายๆ จุดประมาณ 15 – 25 ในหนึ่งครั้งของการยิง ลักษณะเป็นเหมือนกับเส้นประ ส่วน Hifu จะส่งคลื่นพลังงานลงไปที่ชั้นผิวเป็นจุดเหมือนกัน แต่มีขนาดประมาณ 0.3 – 0.5 มิลลิเมตร โดยลักษณะพลังงานที่ส่งลงไปในชั้นผิวสามารถเป็นได้ทั้งเส้นประเรียงกัน หรือแค่จุดเดียวก็ได้ขึ้นอยู่กับหัวยิงที่เลือกใช้ นอกจากนี้ ตัว Hifu นั้นไม่มีหน้าจอที่ทำให้เห็นชั้นผิวคนไข้ค่ะ แต่ในขณะเดียวกัน Ulthera จะมีหน้าจอที่สามารถเห็นชั้นผิวของคนไข้ขณะกำลังทำได้ ทำให้เห็นปัญหาของคนไข้และแก้ไขได้อย่างตรงจุด
เนื่องจากทั้ง 2 ตัวมีประสิทธิภาพที่ไม่เหมือนกัน ดังนั้นส่งผลให้ประสิทธิภาพในการทำงาน Ulthera และ Hifuแตกต่างกัน เพราะ Ulthera มีจุด Focusที่จะส่งคลื่นพลังงานที่มีขนาดใหญ่กว่า ทำให้ยิงค่าพลังงานได้แรงกว่า เสถียรเท่ากันทุกช็อตและยิงลงสู่ชั้นผิวได้ค่อนข้างลึก Hifu เพราะ Hifu ไม่สามารถส่งคลื่นพลังงานที่มีขนาดเท่า Ulthera ได้เนื่องจากประสิทธิภาพเครื่องต่ำกว่าพลังงานของ Ulthera จึงสูง และมีความเสถียรคงที่มากกว่าทำให้หลังทำทันทีผิวจะดูยกกระชับขึ้น 30% และจะค่อยๆ กระชับขึ้นเรื่อยๆ จนเห็นผลเต็มที่ประมาณ 1 – 3 เดือน ส่วน Hifu ที่ส่งคลื่นพลังงานลงไปชั้นผิวเล็กกว่า Ulthera จะเห็นว่าผิวกระชับขึ้นหลังทำทันทีประมาณ 20% และจะเห็นผลเต็มที่ประมาณ 2 เดือน และผลลัพธ์สามารถอยู่ได้นานถึง 3 – 6 เดือน ทั้งนี้ผลลัพธ์และระยะเวลาเหล่านี้ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล พฤติกรรมการใช้ชีวิต การดูแลผิวหลังการทำหัตถการ รวมถึงปัจจัยอื่นๆด้วยเช่นกันค่ะ
เพื่อน ๆ ที่กำลังหาข้อมูลเกี่ยวกับการยกกระชับใบหน้า หรือมีปัญหาเกี่ยวกับความหย่อนคล้อย ทางพาขวัญคลินิกได้รวบรวมข้อมูลของทั้ง Ulthera และ Hifu มาให้ในบทความนี้เพื่อประกอบการตัดสินใจก่อนทำ อย่างไรก็ตามทางพาขัวญคลินิกมีคุณหมอที่คอยแนะนำให้คำปรึกษาด้วยตัวเอง หากใครสนใจก็สามารถเข้ามาพบคุณหมอของเราได้เลยค่ะ
“ เพราะเราเชื่อว่าทุกคนมีความสวยในแบบของตัวเอง
และเราอยากให้คุณมั่นใจในการออกไปใช้ชีวิต “