สาวๆ คนไหนที่มีปัญหาผิวหน้าโทรม หมองคล้ำ แห้งกร้าน จากแสงแดดและรังสียูวี นอกจากนี้ยังมีทั้งฝุ่น ควัน และมลภาวะต่างๆ ที่จะเข้าไปทำร้ายชั้นผิวหนังของเรา จริงๆแล้ววิธีที่ง่ายที่สุดคือการทาครีมค่ะ เพราะสามารถช่วยทำให้ผิวกลับมาดูดีได้แต่ใช้ระยะเวลาที่ค่อนข้างนานกว่าจะเห็นผลลัพธ์ และอาจจะไม่ตอบโจทย์กับยุคสมัยในปัจจุบันที่ต้องการเห็นผลทันที การฉีดวิตามินผิวจึงอาจเป็นทางเลือกที่ดีที่คนในปัจจุบันเลือกใช้กัน และแน่นอน สาวๆที่ชอบดูแลผิวไม่ควรพลาดหมวดเมโสหน้าใสตัวดังของเกาหลีอีกหนึ่งตัวที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในตอนนี้ นั้นก็คือเมโสชาแนล
‘เมโสชาแนล L'ebss’ เป็น Skin Booster ตัวหนึ่งซึ่งเป็นการรักษาผิวหน้าที่นิยมเป็นอย่างมากในเกาหลี ตัวนี้จะช่วยฟื้นฟูและบำรุงผิวหน้า ที่เสื่อมโทรมให้กลับมากระจ่างใส มีสุขภาพดี เป็น 1 ในการรักษาประเภทเมโสเทอราปี (Mesotherapy) หรือ การฉีดเมโสหน้าใส โดยมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า Filorga NCTF (New Cellular Treatment Factor) โดยมีส่วนผสมมากกว่า 50 ชนิด ไม่ว่าจะเป็น วิตามินต่างๆ, สารต้านอนุมูลอิสระ, กรดไฮยาลูโรนิก, กลูตาไธโอน , โคเอนไซม์ และ กรดอะมิโน (Amino Acids) ซึ่งส่วนผสมเหล่านี้ จะช่วยกระตุ้นชั้นผิวหนังที่อ่อนแอ ฟื้นฟูและซ่อมแซมผิวที่เสื่อมโทรม ให้กลับมาแข็งแรง เติมความชุ่มชื้นให้กับผิว และจะทำการกระตุ้นคอลลาเจนใต้ชั้นผิวให้ผิวดูกระจ่างใสและอ่อนเยาว์
เมโสชาแนลสามารถช่วยเรื่องอะไรได้บ้าง
- ช่วยกระชับรูขุมขนให้เล็กลง ผิวเต่งตึงและหน้ามีความเรียบเนียนมากขึ้น
- ปรับผิวหน้าให้กระจ่างใส ผิวฉ่ำโกลว มีออร่ามากขึ้น
- ลดเลือนริ้วรอย จุดด่างดำบนใบหน้า ลดปัญหาเม็ดสีที่เกิดจากแสงแดด และชะลอวัยให้ผิวดูอ่อนเยาว์
- ช่วยเติมความชุ่มชื้นบนใบหน้า ด้วย Hyaluronic Acid
- ช่วนกระตุ้นคอลลาเจนชั้นใต้ผิวหนัง และยังสามารถช่วยใหหลุมสิวตื้นขึ้น
- ช่วยลดการอักเสบของผิวและฟื้นฟูผิวให้แข็งแรงมากขึ้น
เมโสชาแนลฉีดกี่ครั้งถึงจะเห็นผล
จริงๆแล้วการฉีดเมโสหน้าใสตัวนี้สามารถเห็นผลได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉีด แต่จะเห็นการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย เช่น ผิวจะดูเรียบเนียนขึ้น มีผิวพรรณที่ดีขึ้น หน้าจะดูกระจ่างใสขึ้นหรือดูชุ่มชื้นมากยิ่งขึ้น พาขวัญคลินิกขอแนะนำให้ฉีดประมาณ 3 ครั้งขึ้นไปนะคะ เพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจนและมีประสิทธิมากยิ่งขึ้น แนะนำให้เว้นช่วงทิ้งห่างกัน ประมาณ 2-4 อาทิตย์ แล้วจึงค่อยกลับไปซ้ำใหม่ หรือจะเป็นการฉีดเมโสชาแนล เดือนละ 1 ครั้ง และหากเข้ารับบริการครบ 3 ครั้ง สามารถเว้นช่วงได้ประมาณ 3-6 เดือน เพื่อคงประสิทธิภาพได้ดีมากยิ่งขึ้น โดยผลลัพธ์ของการฉีดเมโสหน้าใส จะสามารถอยู่ได้นานถึง 2 เดือน แต่อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์ของการฉีดอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล
ผิวแบบไหนที่ควรฉีดเมโสชาแนล
พาขวัญคลินิกขอแนะนำผู้ที่มีปัญหาผิวเหล่านี้ สามารถฉีดตัวเมโสหน้าใสตัวนี้ ดังนี้
- คนที่ต้องการดูแลผิวหน้าให้ดูกระจ่างใสและต้องการฟื้นฟูผิวแบบเร่งด่วน
- ผู้ที่มีปัญหาหน้าหมองคล้ำ ไม่กระจ่างใส
- คนที่ต้องการมีผิวหน้ากระจ่างใส ฉ่ำวาว
- คนที่ต้องการเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว
- ผู้ที่มีปัญหาเรื่องริ้วรอยบนใบหน้า
หากใครที่ไม่ได้มีปัญหาผิวเหล่านี้แต่ต้องการที่จะฉีดเมโสหน้าใส ก็สามารถฉีดได้นะคะ ที่พาขวัญคลินิกยินดีให้ปรึกษาและคำแนะนำค่ะ
ขั้นตอนการฉีดเมโสชาแนล
ก่อนทำการฉีดเมโสหน้าใส แพทย์จะทำความสะอาดบริเวณนั้น บางคนอาจได้รับประคบเย็นหรือการทายาชาเพื่อช่วยบรรเทาอาการปวด จากนั้นแพทย์จะใช้เข็มขนาดเล็กแทงยาในบางจุดบนใบหน้า ใช้เวลาประมาณ 20-30 นาทีขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่คนไข้ต้องการฉีด หลังฉีดอาจมีอาการบวมเล็กน้อยที่เข็ม แต่จะหายไปเอง ไม่ควรล้างหน้าหรือทำอะไรกับมันในช่วง 6 ชั่วโมงแรกหลังฉีด เพื่อไม่ให้บวมมากขึ้น ตัวเมโสหน้าใสหรือเมโสชาแนล ไม่มีผลข้างเคียงเพราะส่วนประกอบของตัวเมโสได้รับการทดสอบแล้วว่าปลอดภัย แต่อาจจะมีอาการบวมบ้างเล็กน้อยหลังฉีด ซึ่งการประคบเย็นจะสามารถช่วยลดอาการบวมได้ เพื่อนๆสามารถหมดกังวลได้เลยค่ะ
การดูแลตัวเองหลังฉีดเมโสชาแนล
- หลีกเลี่ยงแดดแรง ๆ ประมาณ 7 วัน
- ดื่มน้ำเปล่าเยอะ ๆ เพื่อเป็นการพักฟื้นและฟื้นฟูผิวหน้าได้อย่างรวดเร็ว
- งดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
- ทาครีมกันแดดเป็นประจำ
- หลีกเลี่ยงการทำเลเซอร์ผิวหน้า
สาวๆคนไหนที่อยากมีผิวหน้ากระจ่างใส ดูอิ่มฟู ชุ่มชื่นและมีออร่า พาขวัญคลินิกหาดใหญ่แนะนำตัวนี้เลยค่ะ เมโสหน้าใสหรือที่เรียกกันมาเมโสชาแนล หากใครที่อยู่บริเวณหาดใหญ่-สงขลา สามารถทักเข้ามาติดต่อสอบถามได้ที่เพจ Facebook หรือเข้ามาที่คลินิกได้เลยนะคะ
“เพราะเราเชื่อว่าทุกคนมีความสวยในแบบของตัวเอง
และเราอยากให้คุณมั่นใจในการออกไปใช้ชีวิต”
- พาขวัญคลินิกเสริมความงามหาดใหญ่ -
บทความที่เกี่ยวข้อง
